[Overwatch] Reaper Song...
เรื่องราวของเขาและเธอ... ความมืดและแสงสว่าง
ผู้เข้าชมรวม
1,579
ผู้เข้าชมเดือนนี้
17
ผู้เข้าชมรวม
...ความคับแค้น มันร้อนเป็นไฟข้างใน ไม่มี
ไม่มีใครเข้าใจ...
...หักหลัง หลงลืมชั้นกันหมด จน ไม่
เหลือใคร...
ทั้งที่เป็นผู้บัญชาการเหมือนกัน
ร่วมรบมาด้วยกัน แต่คนที่เด่นและถูกจดจำกลับไม่ใช่เขา แกเบรียล เรเยส แต่เป็นเพื่อนสนิทของเขา
แจ็ค มอร์ริสัน ไม่พอ... เรเยสยังโดนย้ายไปเป็นผบ.อยู่ที่หน่วยแบล็กวอชที่น่าหดหู่และแจ็คได้ขึ้นเป็นผู้ดูแลหน่วยที่เขาเคยดูแลแทน
แม้เบื้องหน้าของทั้งสองจะยังคงเป็นเพื่อนกัน
แต่ความรู้สึกริษยาเริ่มมากขึ้นทุกวัน
เมื่อเห็นมอร์ริสันถูกจดจำและตัวเขาถูกผู้คนลืมเลือน
ความริษยาต่อทุกอย่างมันอาจจะประทุออกมา
ถ้าไม่ใช่เพราะผู้หญิงคนนี้หยุดเอาไว้...
“มาริอา
คราเดียส หลังจากนี้จะมาประจำการทีมแพทย์ของหน่วยแบล็กวอช
ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะผบ.เรเยส...” ว่าพลางยิ้มบางด้วยท่าทีเขินอาย
การพบกันของเขากับศัลยแพทย์หญิงผมสีบลอนด์ปล่อยยาว
ดวงตาสีฟ้าสดใสในชุดแพทย์สีขาว
จากที่เขาฟังมาจากมอร์ริสันเรื่องเด็กใหม่ที่เป็นศัลยแพทย์ตนไม่คิดว่าจะเป็นผู้หญิงเหมือนกับแองเจล่า
ซิคเลอร์...
ไม่เข้าใจว่าทำไมแพทย์ของที่นี่ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงแถมยังอายุไม่ถึง
25
“แกเบรียล
เรเยส ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกัน”
นี่คือการพบกันครั้งแรกของมาเรียและเรเยส...
เรื่องราวของ
แสงสว่าง และ ความมืด
มาริอา
คราเดียส เพื่อนสนิทตั้งแต่เด็กของแองเจล่า
ด้วยความที่ชื่อมาริอาที่เขียนเหมือนกับมาเรีย (MARIA)
หลายคนจึงเรียกมาเรียซะมากกว่า มาเรียเป็นรองหัวหน้าทีมแพทย์ศัลยกรรม
เจ้าหล่อนคอยช่วยเหลือแองเจล่าอยู่ห่างๆหรือจะว่าเป็น 1
ในผู้ช่วยแองเจล่าคิดเรื่องการนำนาโนไบโอโลยีมาช่วยในการรักษา
แต่เธอก็มีความสามารถในการผ่าตัดขั้นสูงไม่ว่าจะคนปกติหรือออมนิคก็สามารถรักษาได้ทั้งหมดและยังคิดค้นยาฟื้นฟูรักษาในรูปแบบต่างๆเพื่อใช้ในช่วงวุ่นวาย
ด้วยความสามารถนี้ทำให้อันนา อามารีสนใจรับเข้ามาเหมือนกับเมอร์ซี่ แต่ในฐานะลูกศิษย์และผู้ช่วยเรื่องตัวยารักษา
ในตอนแรกทุกคนต่างก็แทบจะไม่สนใจหรือพูดกับเธอเท่าไหร่นัก
ต่างฝ่ายต่างก็สนใจแต่งานที่รับมอบหมาย แต่ยิ่งนับวันเวลาผ่านไปหน่วยแบล็กวอช ที่เคยเงียบเหงาน่าหดหู่ก็เริ่มที่จะมีสีสัน
เสียงหัวเราะและรอยยิ้มมากขึ้น
ถึงจะดูบอบบางดูช่วยเหลืออะไรไม่ได้แต่เมื่อไปออกรบจัดการเหล่าร้ายไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหนักกลับมาเหมือนอย่างทุกทีก็เพราะเธอ
เวลาว่างก็เอาแต่คิดค้นสูตรยาในการรักษาที่ปรึกษากับแองเจล่า
โดยเฉพาะเมื่อ
2 สาวมาเรียและแองเจล่ายืนคุยด้วยกัน ทั้งคู่ต่างตกเป็นเป้าสายตาของชายทุกคนในองค์กรณ์
เมื่อเพียบพร้อมไปด้วยความงดงาม สวยสง่า มาดมั่นและความน่ารักยามหัวเราะ
“อ๊ะ...”
ทันทีที่เห็นผบ.หน่วยแบล็กวอชเดินมากับพวกสมาชิก มาเรียพูดอะไรบางอย่างกับแองเจล่า
โบกมือให้ก่อนจะแยกย้าย หญิงสาวรีบวิ่งตรงมาหาเรเยส “ผบ.เรเยส
นี่ผลสรุปของงานที่มอบให้ฉันไปหามาให้ค่ะ”
รีบวิ่งมายื่นเอกสารให้อีกฝ่ายที่กลับมาจากการประชุม
คลี่ยิ้มหวานให้เขาเหมือนอย่างทุกครั้ง
ดูเหมือนเธอจะมายืนคุยกับแองเจล่าชั่วคราวระหว่างรอเขาประชุมเสร็จ
“อืม...”
รับมาตรวจเช็คอยู่ตรงนั้น “ละเอียดเรียบร้อย ทำดีกว่าที่คิดอีกนี่”
“ข...ขอบคุณค่ะ!”
แก้มแดงระเรื่อก่อนจะทำการขอตัวไปศึกษาตัวยาต่อ
“ผมว่าเธอน่าจะสนใจผบ.นะ”
เหล่าสมาชิกในทีมแบล็กวอชอดไม่ได้ที่จะแซวผู้บัญชาการของตน
ก่อนจะโดนเขกหัวไปคนละโป๊กแล้วไปทำงานต่อ
ไม่ใช่ว่าเรเยสไม่รู้
แต่ท่าทางการกระทำของมาเรียที่มีต่อเขากับพวกสมาชิกแตกต่างกัน
รอยยิ้มนั่นมีให้กับทุกคนแต่ไม่ได้แสดงอาการเขินอายเหมือนกับตอนอยู่กับตน
ส่วนใหญ่ผู้หญิงในองค์กรณ์จะไปตามจีบตามออเซาะมอร์ริสันที่เป็นผู้บัญชาการใหญ่ซะมากกว่า
ชายผู้มีแต่คนจดจำและลืมเลือนเพื่อนที่ร่วมรบเคียงข้างเช่นตน...
แล้วทำไมเธอถึงมาสนใจคนอย่างเขากัน..
ยิ่งคิดมากยิ่งนึกไม่ออกสุดท้ายก็เลิกสนใจเรื่องพวกนั้น
เพราะยากที่จะยอมรับว่าเขาเองก็รู้สึกมีความสุขเมื่อได้อยู่ข้างมาเรีย
และเธอเองก็รู้สึกมีความสุขเมื่ออยู่ข้างกายเขา ไม่นานนักทั้งคู่ก็คบกันจนหลายคนตั้งฉายาทั้งคู่ว่าเป็นคู่รักระหว่างจอมมารและเทพธิดา
แต่ความรักนี้มันช่างสั้นนัก
เมื่อหน่วยโอเวอร์วอชและหน่วยแบล็กวอชรวมถึงมาเรียต้องเดินทางไปจัดการการจราจลของนักวิทยาศาสตร์ผู้สร้างออมนิคเลวร้ายที่หนีไปกบดาลอยู่
ณ ประเทศแห่งหนึ่ง...
เป็นสถานที่ที่ทุกอย่างจบลง...
ปังๆๆๆๆๆๆ!!!! เปรี้ยง!!! ตูมม!!!! เสียงปืนและฝุ่นควันคละคลุ้งระหว่างการต่อสู้ของมนุษย์และออมนิคเลวร้าย
ของประเทศที่เต็มไปเศษซากสงคราม ออมนิคส่วนใหญ่ในการต่อสู้นี้มาจากสงครามและจากมนุษย์หลายต่อหลายคนที่ทอดทิ้งและทำร้ายพวกเขา
แม้จะมีผู้บัญชาการอย่างมอรร์ริสันและเรเยสก็ตามพวกทหารก็ไม่ได้จะสามารถรับมือออมนิคได้ง่ายนักเมื่อต้องรบไปและช่วยประชาชนไป
แต่ในความมืดยังมีแสงสว่าง...
“ได้ตัวล่ะ!”
เมอร์ซี่ตะโกนพลางบินไปช่วยรักษาเหล่าทหารกล้าด้วยคฑาของเธอที่บรรจุนาโนไบโอโลยี
ชุดรบของเธอเหมือนดังวัลคิลลี่ เทพธิดาแห่งการรบของนอร์ส
“เรื่องการรักษาปล่อยให้เป็นหน้าที่ของหมอเอง ไว้ใจได้เลย!”
“ไม่ต้องกลัว
ฉันอยู่ตรงนี้!”
มาเรียตะโกนพลางปาเครื่องจักรกลรักษาด้วยนาโนไบโอโลยีแบบติดตามให้เหล่าทหารกล้าที่กำลังรบ
พร้อมขวดยาต่างๆให้เหล่าทหารที่หมดแรง
เธออยู่ในชุดที่คล้ายคลึงกับของเมอร์ซี่แต่เป็นสีขาว
เนื่องจากว่าเป็นการออกรบครั้งแรกของเธอจึงไม่มีเวลาสร้างเกราะที่เหมาะให้แก่เธอ
“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น จะไม่ยอมให้มีใครตายแน่นอน!”
หญิงสาวทั้ง
2 ซึ่งเป็นแสงสว่างของเหล่าทหารทำหน้าที่อย่างแข็งขันไม่ยอมปล่อยให้มีคนตายทั้งสิ้น
เมอร์ซี่คอยช่วยเหลือมอรร์ริสันและเหล่าทหารของเขา
มาเรียช่วยเหลือเรเยสและเหล่าแบล็กวอช คอยรบและคอยเคียงข้างเกื้อหนุนกัน
จนกระทั่งสงครามจบลงด้วยชัยชนะของเหล่าทหารกล้าแห่งโอเวอร์วอช...
มาเรียซึ่งออกมาจากห้องพักหลังจากไปหยิบยามาพบกับเรเยสเข้าพอดี
“นี่ค่ะเกป” เธอยื่นขวดยาให้อีกฝ่ายด้วยรอยยิ้มเหมือนอย่างเคย
“ขอบใจ”
ยอมรับมาดื่มอย่างว่าง่าย
เจ้าหล่อนก็ยิ้มหวานให้ก่อนจะรีบไปช่วยอพยพพวกประชาชนไปยังที่ปลอดภัย
เรเยสถูกมอรร์ริสัยเรียกตัวไปคุยงานบนยาน เหล่าทหารก็รับตัวคนบาดเจ็บ
คอยพาทุกคนขึ้นไปรักษา แต่หลังจากรักษาเสร็จมาเรียเลือกที่ไปเช็กบริเวณรอบๆโดย...ไม่ได้บอกใคร
“เอ...
คงหมดแล้วสินะ” มองไปรอบๆที่มีแต่ซากปรักหักพังและซากหุ่นยนตร์ออมนิค ทว่าจังหวะที่เธอกำลังจะเดินกลับไปยานนั่นเอง...
“ช...ช่..วย...ด้ว..ย...”
“!?”
เสียงแหบพร่าที่แหลมเล็กของเด็กสาวหลุดออกมาจากใต้หินแถวนั้นทำเอามาเรียซึ่งกำลังจะเดินกลับไปยังยานชะงัก
เธอรีบวิ่งดิ่งไปตรงจุดนั้นคุกเข่าชะเง้อหน้ามองสำรวจให้ดี “อดทนไว้นะ
จะช่วยเดี๋ยวนี้แหล่ะ!!”
ในขณะนั้นอีกด้านยานกำลังเตรียมพร้อมออกตัวเมื่อขนทหารที่บาดเจ็บขึ้นยานเรียบร้อย
“ทุกส่วนเรียบร้อยดีครับ ประชาชนทุกคนปลอดภัยดี!”
ทหารส่วนที่พาประชาชนอพยพรายงานแก่มอร์ริสัน
“ดี
รีบขึ้นยานไปพักผ่อนเถอะ ใกล้จะออกตัวแล้ว”
“ครับ!!”
“ผบ.มอรร์ริสัน”
เมอร์ซี่วิ่งมาหา “เห็นมาเรียรึเปล่าคะ?”
“อยู่ที่ห้องพักรึเปล่า?
เมื่อกี้ผมเห็นเธออยู่ที่นั่นน่ะ” เขาตอบโดยไม่รู้ว่าเธอออกมาจากห้องพักแล้ว...
“ขอบคุณมากค่ะ”
ซึ่งทางด้านมาเรียนั้น...
“ไม่เป็นไรนะหนูน้อย
ปลอดภัยแล้วนะ...” เธอพยายามปลอบประโลบเด็กสาวที่บาดเจ็บ
และกำลังรักษาระหว่างรีบพาไปยังจุดหลบภัยของประชาชน เธอต้องรีบทำเวลาก่อนที่ยานจะออก...
ครืนนนน...
แต่ยานกลับเริ่มออกตัวแล้ว! “แย่ล่ะ
ลืมส่งข้อความบอกเกปกับผบ.!”
เธอรีบสาวเท้าเร่งความเร็วขึ้นจนเจอกับพ่อแม่เด็กระหว่างทางพอดี
“พ่อคะ!! แม่คะ!!”
“ลูกแม่!” คุณแม่ของเด็กสาวรีบวิ่งมารับตัวลูกทันที “ขอบคุณนะคะ ขอบคุณจริงๆ!”
“ไม่เป็นไรค่ะ
ฉันขอตัวก่อนนะคะ!” รีบวิ่งไปยังยานทันที
เมอร์ซี่ที่มาถึงห้องพักของมาเรีย
แต่เธอกลับไม่พบใครเลยจนเริ่มว้าวุ่นใจ วิ่งหาไปรอบยานห้องพยาบาล ห้องคนขับ
จนมาเจอกับเรเยสที่กำลังตรวจทหารหน่วยแบล็กวอชอยู่ “เรเยส
คุณเห็นมาเรียบ้างรึเปล่าคะ!?”
“มาเรีย?
ไม่ได้อยู่กับพวกคนเจ็บรึไง?”
“ไม่อยู่ค่ะ! ฉันหาเธอไม่เจอเลย!!”
“ว่าไงนะ!!!” เรเยสโยนเอกสารและรีบวิ่งไปห้องคนขับทันที “มอร์ริสัน! มาเรียไม่อยู่บนยาน!!”
“อะไรนะ!? รีบตรวจสอบบริเวณโดยรอบและลดยานลงต่ำเร็ว!!!”
“ค
ครับ!” ทหารรีบรับคำสั่งเปิดการค้นหาตำแหน่งของมาเรียจนเห็นว่าเธอวิ่งออกมาจากตัวเมืองตรงมาถึงบริเวณที่ยานเคยจอดไว้ตอนแรกแล้ว
“ปรับประตูให้เป็นแบบเลื่อนขึ้นซะ
ชั้นจะไปรับเธอเอง!”
เรเยสรีบสั่งการและวิ่งไปยังประตู
“แฮ่ก..
แฮ่ก...” เจ้าหล่อนหยุดวิ่งเงยหน้าขึ้นไปมองยาน “แย่ล่ะสิ ไม่ทั---”
“มาเรีย!!!”
ไม่ทันที่เธอจะตัดใจเสียงของเรเยสก็ดังมาจากข้างบน
ประตูยานถูกเลื่อนขึ้นจนเห็นร่างอีกฝ่าย
ถ้าหากเธอใช้ชุดวัลคิลลี่ของเมอร์ซี่บินขึ้นไปต้องทันแน่!
เจ้าหล่อนคลี่ยิ้มกว้าง
ดีใจที่ยังไม่โดนลืม
รีบหยิบปืนออกมาเปลี่ยนเป็นคฑาคล้ายของเมอร์ซี่แต่มีลวดลายมากกว่า เปิดระบบพุ่งตัว
เล็งเป้าหมายไปทางอีกฝ่ายก่อนจะรีบบินขึ้นไปทันที!
“ค่อยยังชั่ว..”
เมอร์ซี่ถอนหายใจโล่งอกเมื่อเห็นว่าเพื่อนตนเองปลอดภัยและใกล้จะถึงยานแล้ว
“ดูท่าชั้นคงต้องขอโทษมาเรียซะแล้วสิ...”
“แน่นอนอยู่แล้วล่ะค่ะผบ.มอร์ริสัน”
ขำนิดหน่อยก่อนจะหันไปมองทางประตูอีกครั้ง
เรเยสยื่นมือไปหามาเรียเพื่อให้อีกฝ่ายจับมือของตนไว้เพื่อจะได้ดึงขึ้นมาบนยาน
ไม่นานนักมาเรียก็บินมาถึงตัวของผบ.แห่งแบล็กวอช
มือทั้งสองกอบกุมกันไว้แน่นเหมือนไม่มีอะไรจะมาแยกจากกันได้...
จนกระทั่ง...
ฉัวะ!!!!
เสียงที่ดังสนั่น เลือดที่พวยพุ่งออกมา พร้อมกับร่างของมาเรียที่ค่อยๆร่วงหล่น
แพทย์หญิงและทหารกล้าทั้ง 2 เบิกตากว้างกับภาพตรงหน้า
เรเยสยังคงกุมมือของเธอไว้แน่นแต่มันก็มีเพียงแค่แขนขวาของเธอเท่านั้น...
“.....เ---”
ไม่ทันที่มาเรียจะได้พูดอะไรร่างของเธอก็ตกลงไปยังเบื้องล่าง
“!!!! มาเรีย!!!!” เรเยสตั้งใจจะพุ่งออกไปจากยาน
“!! เรเยสอย่า!!!” มอรร์ริสันล็อกตัวเพื่อนสนิทของตนไว้
เมื่อกี้มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่..!!? เขาได้แต่ตั้งคำถามในใจ แต่พยายามทำตัวให้สงบไว้ ตุบ! เสียงข้างตัวดังขึ้นเมื่อเมอร์ซี่ที่ช็อกกับภาพเมื่อครู่นี้หมดสติไปแล้ว
“ปล่อยเดี๋ยวนี้มอร์ริสัน!!! ชั้นจะลงไปช่วยเธอ!! ปล่อย!!!”
“มันไม่ทันแล้ว!! มาเรียตกลงไปจากความสูงระดับนี้น่ะ!!!! เธอคง...”
เขาเลือกที่จะเงียบไม่ยอมพูดออกมา ประตูยานค่อยๆเลื่อนปิดลงช้าๆ...
.
.
.
.
หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้นก็ได้มีข่าวออกมาเกี่ยวกับสถานที่นั้น
แต่กลับไม่มีข่าวคราวเกี่ยวกับมาเรียเลย เหมือนกับเธอหายตัวไปเหมือนอันนา อามารี
เมอร์ซี่กลายเป็นแพทย์เพียงคนเดียวขององค์กรณ์โอเวอร์วอชทั้งยังสูญเสียเพื่อนสนิทคนสำคัญ
เหมือนกับหน่วยแบล็กวอช เรเยสไม่ค่อยพูดค่อยจากับมอร์ริสันเหมือนแต่ก่อนเพราะเขาสูญเสียคนรัก
สูญเสียแสงสว่างไป...
ความมืดอย่างเขาจึงไม่มีอะไรสามารถมาฉุดรั้งได้
ความอิจฉาริษยาที่เคยมีต่อมอร์ริสันเมื่อก่อนและความเศร้าที่ต้องสูญเสียมาเรียก่อให้เกิดสงครามครั้งใหญ่ระหว่าง
2 เพื่อนสนิทจนโอเวอร์วอชพังพินาศลง
มอร์ริสันไม่มีใครทราบว่าเป็นอย่างไรแต่ข่าวออกมาว่าเขาเสียชีวิต
ปกปิดตัวตนซ่อนตัวอยู่ในชื่อของ Soldier76
ส่วนเรเยสนั้นอาการสาหัส
เมอร์ซี่ใช้ตัวยารักษาที่ไม่หายดีจนเขาได้กลายเป็นเหมือนกลุ่มควัน
ร่างกายค่อยๆผุพังและเสื่อมสลาย ตอนนี้เขาดูยังไงก็ไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป
และย้ายไปอยู่ทาลอน ก่อการร้ายร่วมกับเอมิลี่ที่โดนล้างสมองในชื่อของ Black
Widow และสาวนักแฮก Sombra
การเกิดใหม่ของเขาในชื่อของ
Reaper ...
...มีเพียงเธอ ที่ยังอยู่เคียงข้างกัน แม้วันที่ตัวชั้นต้องตาย...
...แผดเผา ให้มันหลอมละลาย ความโกรธข้างใน...
[พิเศษ]
[4-5 ปีต่อมา]
หลากหลายเหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงนั้น
องค์กรณ์ทาลอนได้เริ่มไล่ล่าฆ่าเหล่าสมาชิกของโอเวอร์วอชทีละคนๆ มีเพียงแต่ยังมีอดีตสมาชิกของโอเวอร์วอชคอยออกปกป้องทุกคนจากพวกทาลอน
และแม้ว่าโอเวอร์วอชกับทาลอนจะไม่ถูกกันนัก
แต่ก็มีบางครั้งที่พวกเขาต้องร่วมงานกันโดยไม่อยากเต็มใจ โดยเฉพาะเหตุกาณ์เมื่อ
4-5 ปีก่อน
เจ้านักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะผู้สร้างออมนิคและก่อสงครามมาหลากหลายประเทศที่ตอนนี้เริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้ง
Reaper
เจอกับเพื่อนเก่าอย่าง Soldier76 หลายครั้งที่ต้องห้ำหั่นกัน
แต่พอร่วมมือกันพวกเขากลับแข็งแกร่งเหมือนในอดีตไม่มีผิด
แต่ในกลุ่มต่อไม่ได้มีแค่ทั้ง 2 คนเท่านั้น ยังมีทั้งสมาชิกเก่าขององค์กรณ์โอเวอร์วอช
และผู้กล้าจากแต่ละประเทศ อย่างแพทย์หญิงแห่งปาฏิหาริย์ Mercy, อดีตผู้บัญชาการหญิง Anna, นักบินหญิงลูกของอันนา Pharah,
นินจานักดาบ Genji, นักดูแลธรรมชาติจากจิน Mei,
อดีตสมาชิกแบล็กวอช คาวบอยสิงห์ปืนไว Mccree, หญิงสาวแห่งกาลเวลาจอมว่องไว
Tracer, กอริลล่านักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะ Winston, พี่ชายของเกนจิ นักยิงธนู Hanzo, มือระเบิด Junkrat, นักสร้างอาวุธและป้อมปืน Torb Jorn, สไนเปอร์สาว Widow
Maker, นักแฮกเกอร์สาว Sombra, นักเล่นเกมอัจฉริยะ
D.VA, ผู้กล้าจากเยอรมัน Reinhardt, มือปืนเศษเหล็ก
ราชาหมู Roadhog, สาวนักรบแห่งรัสเซีย Zarya, ดีเจหนุ่ม Lucio, สถาปนิกอัจฉริยะ Symmetra และ นักพรตผู้ซึ่งเป็นอาจารย์ของเกนจิ Zenyatta
การรวมตัวของพวกเขาเหล่านี้เพียงแค่เพื่อจัดการเจ้านักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะผู้อยู่เบื้องหลังของสงครามทั้งหมดบนโลกนี้
ด้วยเหตุนี้จึงได้ก่อตั้งองค์กรณ์อิสระขึ้น ซึ่งเป็นสถานที่รวมตัวพวกเขาไว้
เมื่อมีเหตุการณ์ร้ายจะได้ออกจัดการได้ทันที
และเรื่องราวการต่อสู้กับออมนิคที่นักวิทยาศาสตร์ตัวอันตรายสร้างขึ้นและมีลักษณะคล้ายกับพวกเขาได้เผยแพร่ออกไปทั่วโลก
ในหมู่กลุ่มคนที่กำลังยืนดูเหล่าผู้กล้าต่อสู้โดยส่งเสียงเชียร์นั้น
มุมตึกที่อยู่ไม่ไกลจากตรงนั้นมีหญิงสาวผมขาวคนหนึ่งแอบยืนมองอยู่ แขนขวาและขาซ้ายเป็นของเทียมจากเหล็ก
จ้องมองไปยังชายหนุ่มชุดฮู้ดสีดำสวมหน้ากากรูปกะโหลกบนจอทีวีขนาดใหญ่นั่น....
หยาดน้ำสีใสไหลอาบดวงหน้า
ริมฝีปากสั่นเครือค่อยๆเอ่ยบางอย่างออกมา...
“......เกป...”
♠จบ♠
แรงบันดาลใจค่ะ~♪
ถ้าใครอยากให้แต่งเรื่องยาวบอกเลยนะคะ อิอิ
*เจ้าของเพลงเหมือนจะลบไปแล้วเลยหามาให้ใหม่ค่ะ*
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ผลงานอื่นๆ ของ LuZiNtEaR ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ LuZiNtEaR
ความคิดเห็น